Moldflow Basics | Ep.2

เมื่อไหร่? ควรใช้ Autodesk Moldflow Adviser

เมื่อไหร่?ควรใช้ Autodesk Moldflow Insight

ตัวเลือกในการใช้ Autodesk Moldflow Adviser และ Autodesk Moldflow Insight เกี่ยวข้องกับการพิจารณาหลายประการ ประกอบด้วย

1. รูปร่างชิ้นงาน

สำหรับชิ้นงานทั่วไปใน Autodesk Moldflow Adviser มีฟังก์ชันที่ชื่อว่า Import Wizard ซึ่งจะทำการตรวจสอบเพื่อตัดสินใจว่าชิ้นงานนั้นเหมาะกับการวิเคราะห์ Dual Domain Mesh หรือการวิเคราะห์ 3D Mesh แต่สำหรับชิ้นงานที่รูปทรงซับซ้อน มีพื้นผิวขนาดเล็กแต่อยู่ในบริเวณที่สำคัญ ควรใช้ Autodesk Moldflow Insight เพราะสามารถปรับบริเวณสำคัญของชิ้นงานให้มีเมชที่เหมาะสมได้ ทำให้สามารถวิเคราะห์รายละเอียดเพิ่มขึ้นได้

Autodesk Moldflow

2.ใช้ Moldflow ใน Life cycle ของการผลิต

กล่าวคือ การใช้งาน Moldflow มาออกแบบ แก้ปัญหา และปรับปรุงตลอด Life cycle ของการผลิต ยิ่งใช้งาน Moldflow ในช่วงแรกของการผลิตก็จะยิ่งได้รับประโยชน์มากขึ้น เนื่องจากปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากการออกแบบผลิตภัณฑ์ การใช้งาน Autodesk Moldflow Adviser จะได้ผลดีที่สุดเมื่อใช้กับช่วงเริ่มต้นใน Life cycle ของการผลิต เนื่องจากเราไม่จำเป็นต้องเมชชิ้นงาน เราสามารถระบุปัญหา ปรับปรุงโมเดล CAD และประเมินผลลัพธ์ภายใน Autodesk Moldflow Adviser ได้เลย นอกเหนือจากนี้ ถ้าใช้ Moldflow เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะ เช่น การควบคุม Valve gate การใช้ Mold insert ที่มีค่าการนำความร้อนสูง หรือการ Core insert ระหว่างการขึ้นรูป ฯลฯ ซึ่ง Autodesk Moldflow Adviser ไม่สามารถแก้ไขได้หากไม่เริ่มตั้งแต่การออกแบบ ดังนั้นจึงควรใช้ Autodesk Moldflow Insight  ที่มีความยืดหยุ่นในการตั้งค่าพารามิเตอร์ต่างๆ เพื่อให้เข้ากับกระบวนการขึ้นรูปที่เหมาะสม

3.ปัญหาหรือประเด็นที่ต้องแก้ไข

Autodesk Moldflow Insight สามารถวิเคราะห์ปัญหาและแสดงผลลัพธ์รูปแบบต่างๆ ในกระบวนการฉีดพลาสติกได้มากกว่า Autodesk Moldflow Adviser รวมถึงการเลือกใช้วัสดุ การปรับพารามิเตอร์ การประมวลผล องค์ประกอบแม่พิมพ์ และลำดับการวิเคราะห์ ส่วนที่สำคัญที่สุดของการทำงาน คือ การมีแนวคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ตั้งเป้าหมายไว้ในการวิเคราะห์ หรือก็คือการกำหนดวัตถุประสงค์ของโปรเจค เพราะมีผลต่อข้อจำกัดในด้านการใช้งาน Autodesk Moldflow Adviser
เช่น

  • ถ้าเราต้องการดูเพียงความแตกต่างของความหนาผนังชิ้นงานหรืออยากทราบตำแหน่งเกทที่ดีที่สุด เราสามารถใช้ Autodesk Moldflow Adviser ได้ แต่เมื่อไหร่ที่งานของเรามีการวิเคราะห์ Valve gate หรือมี Insert core เราจำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้ Autodesk Moldflow Insight
  •  ในการวิเคราะห์โดยปกติที่ไม่ต้องการข้อมูลของเครื่องฉีดพลาสติก เราสามารถใช้ Autodesk Moldflow Adviser และกำหนดขีดจำกัดความดันฉีดของเครื่องจักรได้ แต่ใน Autodesk Moldflow Insight เราจะสามารถเลือกเครื่องฉีดพลาสติกที่ตรงกับการทำงานของเราได้ เพราะ Autodesk Moldflow Insight มีฐานข้อมูลเครื่องจักรมากมาย นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าหรือกำหนดสเปคของเครื่องฉีดพลาสติกได้อีกด้วย
  • การปรับปรุงการบิดงอหรือการโก่งตัวของชิ้นงานให้เหมาะสม ต้องเข้าใจว่าการบิดงอจะถูกกำหนดอย่างไร และข้อผิดพลาดหรือความคลาดเคลื่อนใดที่เกี่ยวข้องกับการบิดงอบ้าง ในส่วนนี้สำหรับ Autodesk Moldflow Adviser นั้นยากที่จะสามารถวิเคราะห์การบิดงอได้ แต่ Autodesk Moldflow Insight มีกระบวนการและความสามารถในการทำนายการบิดงอได้ดีกว่า จึงควรใช้ในการวิเคราะห์เพื่อทำการปรับปรุงการบิดงอของชิ้นงาน สิ่งนี้มีความสำคัญเพราะถ้าชิ้นงานที่เราทำงานวิเคราะห์ มีโอกาสเกิดการหักงอหรือไวต่อการบิดงอจะต้องใช้ Autodesk Moldflow Insight

สรุป
จะเห็นได้ว่ามีการพิจารณาปัจจัยหลายประการเมื่อตัดสินใจใช้ Autodesk Moldflow Adviser หรือ Autodesk Moldflow Insight ในงานวิเคราะห์ของเรา เมื่อใดที่เราต้องการข้อมูลละเอียดเพิ่มมากขึ้นและกระบวนการทำงานไม่รองรับ Autodesk Moldflow Adviser เราจึงต้องใช้ Autodesk Moldflow Insight นั่นเอง อย่างไรก็ตาม เราสามารถใช้การผสมผสานระหว่าง Autodesk Moldflow Adviser และ Autodesk Moldflow Insight  ได้โดยไม่จำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น เราใช้ Autodesk Moldflow Adviser ในช่วงแรกของการออกแบบ แต่เมื่อต้องการวิเคราะห์ผลลัพธ์ในชิ้นงานที่ซับซ้อนมากขึ้นเราจึงไปใช้ Autodesk Moldflow Insight